1. มีการจดทะเบียนบริษัทอย่างถูกต้อง

สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงเมื่อต้องการจ้างโรงงานผลิตครีม คือ การตรวจสอบว่าบริษัทมีการจดทะเบียนอย่างถูกต้องหรือไม่ การจดทะเบียนบริษัทนั้นเปรียบเสมือนการยืนยันว่ามีการทำธุรกิจเหล่านั้นอย่างถูกต้อง หากมีการจดทะเบียนจริงจะมีชื่อในระบบพร้อมเอกสารการขึ้นทะเบียนการค้า (DBD Registered) ที่แสดงว่าโรงงานมีการเปิดให้บริการและมีตัวตนอยู่จริง นอกจากจะตรวจสอบความน่าเชื่อถือของโรงงานได้แล้ว หากในกรณีที่คุณต้องดำเนินการทางกฎหมาย การมีข้อมูลของบริษัทอย่างละเอียดถือเป็นข้อได้เปรียบที่สามารถเอาผิดกับทางบริษัทผลิตครีมในภายหลังได้

2. ความสามารถและความเชี่ยวชาญ

สิ่งต่อไปที่ต้องพิจารณาคือความสามารถและความเชี่ยวชาญของบริษัท แต่ละโรงงานหรือบริษัทจะมีความถนัดและประสบการณ์ต่างกัน หากต้องการสร้างแบรนด์ครีมให้มองหาโรงงานที่มีการผลิตคล้ายกับผลิตภัณฑ์ของคุณ เลือกโรงงานที่มีประสบการณ์เพื่อการผลิตครีมในทุกด้านตั้งแต่การคิดค้น วิจัยสูตร ผ่านผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนาสูตรครีมโดยเฉพาะ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและสร้างจุดเด่นที่แตกต่างจากสินค้าที่มีอยู่เดิมในท้องตลาด และควรมีเจ้าหน้าที่ขององค์กรที่สามารถให้คำแนะนำและคำปรึกษาตั้งแต่ก่อนผลิตตลอดจนการขายสู่ท้องตลาด

3. โรงงานผลิตครีมที่ได้มาตรฐาน

การที่โรงงานได้รับการรับรองมาตรฐานในการผลิต GMP, ISO, Halal และ FDA เป็นการยืนยันมาตรฐานการผลิตของโรงงานว่ามีคุณภาพ ปลอดภัย ปราศจากการปนเปื้อนในสายการผลิต ตรงตามที่มาตรฐานกำหนดและผลิตภัณฑ์มีความสม่ำเสมอในทุก ๆ ล็อตการผลิต กล่าวโดยรวมคือผ่านการดูแลการผลิตครอบคลุมทั่วโรงงาน ในขณะเดียวกันผลิตภัณฑ์ของคุณสามารถอ้างอิงความน่าเชื่อถือนี้ได้ ด้วยการใส่เครื่องหมายรับรองการผลิตบนฉลากสินค้า เพื่อสร้างความไว้วางใจต่อผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าและมุ่งไปสู่การกระตุ้นให้เกิดการซื้อซ้ำของผลิตภัณฑ์ในอนาคตได้อีก

4. คิดต้นทุนขาย กําไร และราคาขาย

ราคาและขั้นต่ำในการผลิตครีมเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ควรพิจารณาในการเลือกโรงงาน เพราะราคาส่งผลไปยังต้นทุนและราคาที่ต้องกำหนดให้กับผลิตภัณฑ์ในอนาคต ยิ่งต้นทุนสูง การกำหนดราคาให้กับผลิตภัณฑ์ก็จะสูงและได้กำไรน้อยตามไปด้วย ในส่วนของการมีตัวเลือกอย่างขั้นต่ำในการผลิต สามารถช่วยลดต้นทุน – ความเสี่ยงในการทำธุรกิจครีมได้ในกรณีของค้างสต็อค เพราะฉะนั้นควรติดต่อสอบถามและค้นหาโรงงานที่หลากหลาย นำราคาและขั้นต่ำมาเปรียบเทียบเพื่อดูราคากลาง ศึกษารายละเอียดว่าบริษัทไหนให้บริการคุ้มค่ากับราคา และได้ขั้นต่ำน้อยที่สุด

5. บริการแบบครบวงจร

โรงงานรับผลิตครีมแบบครบวงจรช่วยประหยัดเวลาในการทำแบรนด์ หากเจ้าของแบรนด์ต้องดำเนินการเองในทุกส่วน ย่อมสูญเสียทั้งเวลาและความล่าช้าในกระบวนการผลิต การให้บริการแบบครบวงจรช่วยเพิ่มความสะดวกรวดเร็วให้กับเจ้าของแบรนด์ได้ โรงงานที่มีบริการลักษณะนี้จะช่วยดูแลทุกขั้นตอนตั้งแต่ เริ่มต้นวางแผนการผลิต การออกแบบบรรจุภัณฑ์ การขอ อย. (โรงงานสามารถดำเนินงานได้เร็วกว่าเจ้าของแบรนด์ไปดำเนินการเอง) ไปจนถึงการให้คำแนะนำของผลิตภัณฑ์ก่อนออกขายสู่ตลาด ซึ่งบางโรงงานจะมีทีมการตลาดดูแลในส่วนนี้เพิ่มเติมด้วย

จากสถิติของบริษัทฯ ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา สามารถจำแนกประเภทของผลิตภัณฑ์ที่มีการสั่งผลิตมากที่สุดได้ดังนี้

1. ครีม (Cream)

ครีมบำรุงผิวส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมของน้ำมันและน้ำ พร้อมเพิ่มสารสกัดต่าง ๆ ตามแต่ละสูตรของทางแบรนด์ เหมาะกับการผลิตครีมประเภทบำรุงผิวหน้าที่ต้องการความเข้มข้นสูง หรือเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว แม้ว่าครีมจะมีการดูดซึมเข้าสู่ผิวหนังได้ช้ากว่าเนื้อครีมประเภทอื่น ๆ เพราะมีส่วนประกอบของน้ำมัน แต่ก็สามารถช่วยสร้างเกราะป้องกันและลดการสูญเสียความชุ่มชื้นในผิวได้ – ประเภทผลิตภัณฑ์ที่นิยมสั่งผลิต : ครีมผิวขาว, ครีมรักษาสิว, ครีมลดริ้วรอย, ครีมกันแดด – สภาพผิวที่เหมาะสม : ผิวแห้ง เนื่องจากผิวขาดความชุ่มชื้น และเกิดริ้วรอยอ่อนกว่าวัยได้ง่ายกว่าผิวประเภทอื่น

2. โลชั่น (Lotion)

ผลิตภัณฑ์แบบเนื้อโลชั่นเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันและน้ำเข้าด้วยกัน แต่ส่วนผสมส่วนใหญ่จะเป็นน้ำมากกว่า หรือที่เราเรียกว่า Water-Based โลชั่นมีเนื้อสัมผัสคล้ายกับครีมแต่มีน้ำหนักเบากว่ามาก ข้อดีของโลชั่นสามารถซึมซับได้เข้าสู่ผิวได้รวดเร็วกว่า และไม่ทิ้งความไม่เหนียวเหนอะหนะไว้บนผิว สำหรับเนื้อโลชั่นจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือเนื้อครีมและเนื้อน้ำนม สูตรโลชั่นยอดนิยมจะเน้น 3 ผลลัพธ์ คือ ผิวขาวกระจ่างใส เติมความชุ่มชื้นให้ผิว และลดปัญหาอาการแพ้ ระคายเคืองต่าง ๆ – ผลิตภัณฑ์ที่นิยมสั่งผลิต : ครีมทาผิวกาย, ผลิตภัณฑ์รักษาสิว – สภาพผิวที่เหมาะสม : ผิวธรรมดาและผิวผสม

3. เซรั่ม (Serum)

เซรั่ม มีลักษณะเนื้อใส เนื้อสัมผัสอาจคล้ายน้ำ มีความหนืดเหนียวแต่บางเบา ซึมซาบสู่ผิวได้ง่าย เป็น Oil-Based  มีโมเลกุลขนาดเล็กที่สามารถเดินทางเข้าไปในชั้นลึกของผิว เป็นการกลั่นเอาคุณสมบัติพิเศษต่าง ๆ มารวมไว้ในผลิตภัณฑ์ชนิดเดียวที่จะช่วยดูแลผิว โดยเซรั่มจะเน้นในการใส่สาร Active Ingredients ซึ่งช่วยฟื้นฟูปัญหาผิวเฉพาะจุด โดยเนื้อผลิตภัณฑ์ประเภทนี้จะเหมาะกับสารสกัดที่เข้มข้น เพื่อให้เห็นผลชัดเจนและเร่งด่วนกว่าตัวเนื้อครีมและโลชั่น เหมาะกับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการบำรุงซ่อมแซมผิว หรือผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเรื่องการลดริ้วรอย เป็นต้น – ผลิตภัณฑ์ที่นิยมสั่งผลิต : เซรั่มช่วยป้องกันสิวและลดรอยดำจากสิว, เซรั่มช่วยกระชับรูขุมขน, เซรั่มช่วยลดริ้วรอย – สภาพผิวที่เหมาะสม : ผิวแห้งและผิวผสม

4. เจล (Gel)

เจลมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก หากผสมน้ำมันก็จะมีในปริมาณที่น้อยมากหรือไม่มีเลย ด้วยความที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักจึงทำให้ซึมเข้าสู่ผิวได้โดยง่ายและรวดเร็ว ไม่ค่อยอุดตัน ทาแล้วหน้าไม่มันมากเหมือนกับผลิตภัณฑ์แบบเนื้อครีมหรือโลชั่น แต่เนื้อเจลอาจไม่เหมาะกับคนที่มีผิวแห้ง เพราะส่วนใหญ่ในเนื้อเจลไม่ค่อยใส่สารที่ให้ความชุ่มชื้นหรือพวกน้ำมัน ผลิตภัณฑ์แบบเนื้อเจลจัดว่าเป็นเนื้อผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับคนเป็นสิวมากที่สุด อย่างที่เห็นได้ทั่วไปว่าในท้องตลาดมักมีผลิตภัณฑ์รักษาสิวหลายตัวที่นิยมทำให้ออกมาในรูปแบบของเจล – ผลิตภัณฑ์ที่นิยมสั่งผลิต : กันแดด, ผลิตภัณฑ์รักษาสิว, ครีมล้างหน้า – สภาพผิวที่เหมาะสม : ผิวธรรมดาและผิวมัน

5. เอสเซ้นส์ (Essence)

ประเภทครีมบำรุงผิวที่มีเนื้อสัมผัสเป็น Water-Based เอสเซ้นส์มีความเข้มข้นน้อยกว่าเซรั่มและมีเนื้อที่เบาบางกว่า เน้นบำรุงผิวจากภายใน มีลักษณะเป็นน้ำบางเบา ซึมลงสู่ผิวง่าย มีความเข้มข้นสูง ช่วยฟื้นฟูปัญหาผิวเฉพาะจุดเช่นเดียวกับเซรั่ม เหมาะกับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการเน้นการฟื้นฟูผิว ทำให้ผิวแข็งแรงเป็นหลัก เหมาะอย่างมากกับผู้ที่แพ้สารตระกูลน้ำมัน – ผลิตภัณฑ์ที่นิยมสั่งผลิต : น้ำตบหน้าใส – สภาพผิวที่เหมาะสม : ใช้ได้กับทุกสภาพผิว

6. อีมัลชั่น (Emulsion)

เกิดจากการผสมกันระหว่างน้ำมันและน้ำ โดยมีของเหลวหนึ่งกระจายตัวเป็นหยด ๆ อยู่ในของเหลวอีกตัวหนึ่ง จะอยู่ในรูปของเหลวมีเนื้อหนักกว่าโลชั่นคล้ายน้ำนมแต่เบากว่าเนื้อครีม อิมัลชั่นแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท Oil in Water และ Water in Oil สรรพคุณหลัก ๆ ของอิมัลชั่นนั้นคล้ายกับมอยซ์เจอไรเซอร์ โดยจะช่วยเติมและล็อคความชุ่มชื้นไว้ในผิว มีความบางเบา ซึมง่าย ไม่เข้มข้นจนเกินไป แต่อิมัลชั่นมักจะนิยมใช้เป็นตัวช่วยเสริมในสกินแคร์ ซึ่งหลาย ๆ คนมักจะตามด้วยการใช้มอยซ์เจอไรเซอร์เป็นสเต็ปปิดท้าย – ผลิตภัณฑ์ที่นิยมสั่งผลิต : กันแดด, ครีมบำรุงผิวหน้าแบบเดย์ครีม (Day Cream) – สภาพผิวที่เหมาะสม : ใช้ได้กับทุกสภาพผิว

เรามีทีมงานคุณภาพที่พร้อมจะให้คำปรึกษาและคอยเป็นพี่เลี้ยงให้กับธุรกิจของคุณอยู่เสมอ รวมถึงเครื่องมือในการดำเนินการตลาดที่สำคัญในปัจจุบัน เช่น เว็บไซต์ โซเชี่ยลมีเดีย เซลเพจ การให้คำปรึกษาในการปรับปรุงการโฆษณาออนไลน์บนแพลทฟอร์มต่าง ๆ และรวมถึงช่องทางการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ ทั้งในแถบตะวันออกกลาง และ กลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน

ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการดำเนินการตลาดนั้น ไม่ได้มีการกำหนดตายตัวแต่อย่างใด ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายดังกล่าว จะแปรผันตามประเภท และ ความต้องการทางธุรกิจของลูกค้าเป็นที่ตั้ง